วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

วงปีบอกอายุต้นไม้


วงปี...บอกอายุไม้
      วงรอบปีของเนื้อไม้เกิดขึ้นจากการเจริญเติบโตของต้นไม้ในรอบปีไม่เท่ากัน เนื้อไม้ที่เกิดขึ้นในฤดูฝนจะมีความหนาแน่นต่ำและค่อนข้างที่มีรูพรุนมากเห็นเป็นสีอ่อน เราเรียกเนื้อไม้ต้นฤดู (Early wood หรือ spring wood) ไม้ที่เจริญเติบโตในช่วงฤดูนี้จะโตอย่างรวดเร็วจึงทำให้เป็นสาเหตุที่เนื้อไม้ไม่หนาแน่นและมีสีที่อ่อนกว่าไม้ที่โตในฤดูปลายฝน ฤดูหนาว ฤดูแล้ง ขณะที่เนื้อไม้ที่เกิดขึ้นในปลายฤดูฝนต่อฤดูแล้งจะมีความแน่นสูงเห็นเป็นสีเข้ม เราเรียกเนื้อไม้ปลายฤดู (Late wood หรือ summer wood)



      ไม้ที่โตในช่วงฤดูนี้จะมีการเติบโตที่ช้าทำให้เนื้อไม้ความหนาแน่นสูงและมีสีเข้ม เมื่อเนื้อไม้ปลายฤดูต่อเนื้อไม้ต้นฤดูในปีต่อไปก็เห็นเนื้อไม้ที่มีสีอ่อนละสีเข้มสลับกันเป็นช่วงๆ โดยไม้สีอ่อนกับสีเข้มสลับกันซึ่งเราเรียกว่าแนววงรอบปี โดยไม้สีอ่อน 1 ชั้นรวมกับไม้สีเข้ม 1 ชั้นคืออายุ 1 ปีของไม้นั้นเอง

      ดังนั้นไม้ที่เติบโตประเทศที่มีภูมิอากาศหนาวแห้งก็จะทำให้มีเจริญเติบโตได้ช้ากว่าจึงทำให้ไม้มีความหนาแน่นกว่า เช่น ต้นไม้ประเภทไม้สนที่เติบโตในประเทศโซนร้อนก็จะเป็นไม้สนที่โตเร็ว มีความหนาแน่นที่ตำกว่า ขณะที่ไม้สนโตในประเทศเขตหนาวจัด เช่น แถบสแกนดิเนเวียหรือแถบรัสเซียก็จะเป็นไม้ที่เติบโตได้ช้าความหนาแน่นสูงกว่าจึงเหมาะที่จะมาใช้งานที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างอาคารต่างๆมากกว่า อย่างไรก็ตามความหนาแน่นของไม้จะไม่ได้ขึ้นอยู่กับภูมิอากาศอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับของสายพันธ์ไม้อีกด้วยว่าเป็นอย่างไร

      ในรอบ 1 ปี วาสคิวลาร์แคมเบียมของพืชที่มีเนื้อไม้จะมีการแบ่งเซลล์สร้างไซเลมและโฟล เอ็มขั้นที่ 2 จำนวนมากน้อยต่างกันในแต่ละฤดูขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำและธาตุอาหาร ในฤดูที่สิ่งแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ดี เช่น ฤดูฝน เซลล์ชั้นไซเลมจะเจริญเร็วมีขนาดใหญ่ทำให้ได้ชั้นไซเลมกว้าง และมีสีจางในฤดูแล้ง เซลล์ชั้นในไซเลมจะเจริญช้ามีขนาดเล็กเบียดกันแน่นทำให้เห็นแถบแคบๆและมีสีเข้มลักษณะดังกล่าวทำให้เห็นเนื้อไม้มีสีจางและเข้มสลับกันมองเห็นเป็นวงเรียกว่า วงปี





      วงปีไม้จึงเป็นหลักฐานหนึ่งที่ได้รับการพิสูจน์และทำการศึกษากันอย่างกว้าง ขวางในประเทศต่าง ๆ แล้วว่ามีศักยภาพ ในประเทศไทยเพิ่งมีการศึกษากันอย่างจริงจังและต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 และพบว่าต้นไม้ที่มีศักยภาพในการศึกษาข้อมูลตัวแทน ของวงปีไม้นั้น ได้แก่ ไม้สักและไม้สนสองใบ เป็นต้น